ทำไมถึงต้องศัลยกรรมผ่าตัดกราม ?

“การตัดกราม” เป็นการจบปัญหาที่ดีที่สุดค่ะ ในปัจจุบันหัตถการนี้ไม่เป็นอันตรายนะคะ เพราะทำการผ่าตัดภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ด้านการตกแต่งเฉพาะทางค่ะ และยังเป็นการรักษาทางการแพทย์อย่างหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเลยก็ว่าได้ ด้วยเทคนิคการผ่าตัดกราม V-Line แบบเกาหลี เป็นการตัดแต่งเฉพาะกระดูกที่ยืนออกมามากกว่าปกติ ในกรณีที่คนไข้มีกล้ามเนื้อสำหรับบดเคี้ยวหนาเกินไป เมื่อทำการตัดแต่งกระดูกกรามแล้ว กล้ามเนื้อส่วนนั้นก็จะหดตัวเล็กลงด้วยค่ะ

ใบหน้าที่สวย คือ “ใบหน้าที่สมส่วน โค้งสวยเป็นธรรมชาติ” ค่ะ

แต่สาวๆน้อยคนนะคะ ที่จะมีรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบนี้มาแต่เกิด เนื่องจาก ลักษณะโครงสร้างใบหน้าของชาวเอเชียส่วนใหญ่ จะมีขนาดกรามค่อนข้างใหญ่ กว้าง หน้าเหลี่ยม ใบหน้าดูดุ ขาดความละมุนค่ะ ทำให้สาวๆหลายคนขาดความมั่นใจ

แพทย์จะวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าส่วนล่าง 2 ส่วน หลักๆเลย คือ กระดูกขากรรไกรล่าง และ กล้ามเนื้อที่มีส่วนช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร เพื่อประเมินหาสาเหตุ รวมไปถึงเลือกใช้เทคนิคในการผ่าตัดที่เหมาะสมค่ะ 

ศัลยกรรมตัดกราม คืออะไร และ ต่างจากการตัดแบบ V-Line อย่างไร ?

เทคนิคที่แพทย์เลือกใช้จะมีสองแบบค่ะ เทคนิคที่ว่านั้นก็คือ การผ่าตัดมุมกรามแบบทั่วไป และ การผ่าตัดกรามแบบ V-Line นั่นเอง ทั้งสองเทคนิคนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างไร 

เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะคะ

• ผ่าตัดมุมกรามแบบทั่วไป

เป็นการเหลามุมกรามทั้งสองข้างออก เพื่อเพิ่มความเรียวเล็กให้ใบหน้า จึงเหมาะกับใครที่มีโครงสร้างใบหน้าช่วงล่างสั้นมากค่ะ รวมไปถึงคนที่มีหน้าเหลี่ยม คางแบน และกว้าง ด้วยค่ะ

• ผ่าตัดกราม V-Line ด้วยเทคนิคเกาหลี

เทคนิคนี้จะตัดตั้งแต่มุมกรามไปจนถึงมุมคางเลยค่ะ เพื่อใบหน้าดูวี โค้งเรียวสวยละมุน เป็นธรรมชาติ การผ่าตัดจึงแบ่งออกเป็น 3 แบบนะคะ คือ 

• ผ่าตัดหน้าเรียวแบบ  2 จุด (กราม และคาง) 
• ผ่าตัดหน้าเรียวแบบ 3 จุด (กราม คาง และโหนกแก้ม) 
• ผ่าตัดหน้าเรียวแบบ 4 จุด (กราม คาง โหนกแก้ม และ ขากรรไกร)

ซึ่งเทคนิคนี้จะเหมาะกับคนที่มีคางยาว ยื่นเกินไป รวมไปถึงคนที่มีคางถอยค่ะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ตอบโจทย์ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินนะคะ ว่าใครเหมาะกับการผ่าตัดกราม V-Line แบบไหน 

ศัลยกรรมผ่าตัดกราม V-line เหมาะกับใคร ?

ใบหน้าที่โค้งสวย สมดุล เรียวได้รูป เป็นใบหน้าในฝันของสาวๆหลายคนค่ะ 

แต่ด้วยกรรมพันธุ์ของคนไทยแล้ว น้อยคนนะคะ ที่จะเกิดมามีรูปหน้าที่สวยสมใจ ขอบอกเลยนะคะว่า ความกังวลใจจะหมดไป เพียงแค่ศัลยกรรม “ตัดกราม V-Line” ค่ะ ดังนั้นมาเช็คกันนะคะ ว่าโครงหน้าของเรามีปัญหาเหล่านี้อยู่หรือเปล่า…

• กรามใหญ่ เอียง เบี้ยว เห็นแนวกรามชัดเจนเมื่อมองจากด้านล่าง
• ขนาดใบหน้ากว้าง หน้าเหลี่ยม อยากใหใบหน้าเล็กลง
• กรามสองข้างไม่เท่ากัน ใบหน้าดูมีอายุเกินจริง
• คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของใบหน้าที่รวดเร็วและชัดเจน

ลักษณะการเปิดแผลที่นิยม…เพื่อใบหน้าเรียวสวย

ในปัจจุบันการผ่าตัดกรามเป็นการปรับโครงสร้างใบหน้าที่ปลอดภัย และได้รับความนิยมไม่แพ้การผ่าตัดยุบโหนกค่ะ ซึ่งหัตถการทั้งสองอย่างนี้สามารถทำควบคู่กันได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์  เพื่อเพิ่มความเรียวสวยให้กับใบหน้า 

โดยแพทย์จะมีลักษณะเปิดแผล สอง แบบไม่ว่าจะเป็น การเปิดแผลนอกช่องปาก และ การเปิดแผลภายในช่องปาก ซึ่งการเปิดแผลทั้งสองแบบนี้จะมีข้อดี ข้อควรระวังที่แตกต่างกันออกไปค่ะ  เดี๋ยวเรามาดูกันนะคะว่า ความแตกต่างของการเปิดแผลทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไร

• การเปิดแผลนอกช่องปาก

แพทย์จะเปิดแผลบริเวณมุมขากรรไกร ประมาณ 2-3 เซนติเมตรค่ะ แล้วหลังจากนั้นจะใช้เครื่องมือที่สะอาดและทันสมัยตัดกระดูกส่วนกรามที่ยื่นนั้นออกมา แล้วทำการเย็บปิดแผลอย่างปราณีตค่ะ

ซึ่งมีข้อดีก็คือใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดค่อนข้างน้อย ดูแลทำความสะอาดแผลง่าย รวมไปถึงอาการบวมก็น้อยเช่นกันค่ะ ใช้ระยะเวลา 3-5 วันเท่านั้น ก็จะค่อยๆดีขึ้น  เมื่อมีข้อดีแล้ว ข้อควรระวังก็มีนะคะ เนื่องจากเป็นการเปิดแผลบริเวณมุมกราม ทำให้มีโอกาสทิ้งรอยแผลเป็นหลังผ่าตัดค่ะ

• การเปิดแผลในช่องปาก

การเปิดแผลลักษณะนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก  เนื่องจากแพทย์จะเปิดแผลบริเวณซอกเหงือกด้านหลังฟันกรามไปยังมุมกระดูกขากรรไกร ทำให้เปิดแผลได้ยาวกว่า สามารถตัดแต่งกระดูกขากรรไกรได้ตลอดแนวเลยค่ะ หลังจากนั้นจะทำการเลื่อยหรือเหลากระดูกในซอกแคบๆ ทำให้จำเป็นต้องอาศัยแพทย์ที่มากประสบการณ์ มีความชำนาญพิเศษในการผ่าตัด ผลลัพธ์ทีได้จะออกมาโค้ง เนียน สวย ดูดีเป็นธรรมชาติค่ะ

ซึ่งข้อดีของการเปิดแผลลักษณะนี้คือ มองไม่เห็นรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัด เนื่องจากเป็นการเปิดแผลในช่องปาก และไม่เสี่ยงกระทบเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อมุมแก้มด้วยนะ แต่ข้อควรระวังก็มีค่ะ เพราะเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างละเอียดและซับซ้อน จึงใช้เวลาในการผ่าตัดค่อนข้างนาน แถมหลังการผ่าตัดคนไข้ต้องดูแลช่องปากเป็นพิเศษด้วยนะคะ เพื่อป้องกันโอกาสติดเชื้อนั่นเอง

 ศัลยกรรมผ่าตัดกรามเจ็บไหม ??

การตัดกรามแบบ V-Line ต้องกระทำภายใต้การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางนะคะ ทำให้ขณะที่คนไข้เข้ารับการผ่าตัดจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดเลยค่ะ แต่หลังจากที่กระบวนการผ่าตัดเสร็จสิ้น คนไข้เริ่มรู้สึกตัวอาจมีอาการปวดบวมมากนะคะ 

แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ อาการเหล่านี้จะค่อยๆบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งในช่วงระยะ 3 วันแรก หลังจากนั้น 7-14 วัน อาการปวดบวมก็จะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับค่ะ ในส่วนของรูปทรงใบหน้า จะเผยให้เห็นความเรียวสวยชัดเจนภายในระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ค่ะ

ศัลยกรรมผ่าตัดกรามใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน?

คนไข้ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดนะคะ หลังจากนั้นจึงสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ค่ะ ในช่วงเวลา 7-14 วัน แผลผ่าตัดจะเริ่มสมานกัน หากแพทย์เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย คนไข้ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาตัดไหมนะคะ เพราะตัวไหมละลายจะถูกดูดซึมโดยร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว จะใช้ระยะเวลาประมาณ 14 วันค่ะ ในส่วนของอาการปวด บวมต่างๆหลังจากการผ่าตัด คนไข้ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับและกลับเข้าสู่สภาวะปกติค่ะ 

ศัลยกรรมตัดกรามที่ไหนดี ? 

ในการตัดสินใจเลือกทำศัลยกรรมแต่ละครั้งควรศึกษาข้อมูลสถานพยาบาล ชื่อเสียงความชำนาญของศัลยแพทย์อย่างละเอียดรอบครอบ ไม่ควรตัดสินใจจากราคาโปรโมชั่นหรือรูปรีวิวประกอบเพียงอย่างเดียว ควรคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ได้และความปลอดภัยเป็นหลักค่ะ

ที่ Masterpiece Hospital นำทีมโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์ ในการประเมินลักษณะโครงสร้างบริเวณใบหน้าช่วงล่างแต่ละบุคคล รวมไปถึงประเมินราคาและเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าช่วงล่าง นอกจากนี้ ห้องผ่าตัดได้รับมาตรฐาน เครื่องมือสะอาด ทันสมัย มั่นใจ ปลอดภัยหายห่วง  

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมทุกชนิดถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้การผ่าตัดดำเนินไปได้อย่างราบรื่นแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นขณะเข้ารับการผ่าตัดอีกด้วยค่ะ ดังนั้น เรามาดูกันนะคะว่าขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด มีอะไรบ้าง

• อันดับแรกเลยก่อนถึงวันผ่าตัด
• คนไข้ควร งดบุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ วิตามินต่างๆ รวมไปถึงอาหารเสริมทุกชนิด ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

• เมื่อถึงวันผ่าตัด

• งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการผ่าตัดนะคะ เพราะการผ่าตัดกรามนั้นจะกระทำการผ่าตัดภายใต้การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์เฉพาะทางค่ะ
• พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมสภาพจิตใจ ร่างกาย ให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นจนเกินไปนะคะ
• คนไข้ควรอาบน้ำ สระผมให้สะอาด เลือกเสื้อผ้าที่ง่ายต่อการสวมใส่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดคอกว้าง เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า เป็นต้นค่ะ
• งดแต่งหน้า ทาเล็บ ต่อเล็บทุกชนิด และถอดเครื่องประดับทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดนะคะ
• ตรวจร่างกาย แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว รวมไปถึงยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบโดยละเอียดค่ะ

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัด

คนไข้ที่เข้ารับตัดกรามต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อสังเกตุอาการ หลังจากนั้นคนไข้จึงสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แต่คนไข้ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษนะคะ

ในช่วง 3 วันแรก แนะนำว่าให้คนไข้ใช้แผ่นเจลเย็นสำเร็จรูปวางบนผ้าที่สะอาดแล้วประคบบริเวณใบหน้าผ่าตัดกราม เพื่อลดอาการบวมค่ะ แล้วหลังจากนั้นจึงเริ่มประคบอุ่นเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดค่ะ

ในช่วงนี้คนไข้บางรายอาจจะมีอาการหูอื้อเล็กน้อย เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนระหว่างการผ่าตัดกระดูกกราม แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อยๆบรรเทาลงและดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับค่ะ

ในส่วนของอาหารควรเลือกรับประทานอาหารอ่อนๆก่อนนะคะ งดอาหารรสจัด บุหรี่ อาหารหรือเครื่อดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมไปถึงเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ที่ต้องเคี้ยวเยอะๆนะคะ เพราะเสี่ยงต่อการที่กระดูกเคลื่อนได้ในช่วง 30 วันแรกค่ะ 

หลังจากรับประทานอาหารคนไข้ควรทำความสะอาดช่องปากด้วยน้ำยาบ้วนปากสม่ำเสมอ หรือ แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนๆก็ได้ค่ะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ 

อ้อ…  อย่าลืมรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งและเดินทางมาพบแพทย์ตามวันและเวลานัดหมายด้วยนะคะ