ทำไมถึงต้องศัลยกรรมทุบโหนก ?
ปัจจุบันการ “ทุบโหนกแก้ม” เป็นการรักษาทางการแพทย์อีกหนึ่งทางเลือกเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสามารถทำการแก้ไขลดขนาดกระดูกโหนกแก้มให้รับเข้ากับใบหน้า แถมยังช่วยปรับโครงสร้างของโหนกแก้มให้สมส่วนยิ่งขึ้นค่ะ
“โหนกแก้ม” ถือเป็นส่วนสำคัญของใบหน้าเลยค่ะ นอกจากช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความโดดเด่นของใบหน้าแล้ว ยังบั่นทอนความมั่นใจของเราได้อีกด้วย เพราะลักษณะโครงสร้างของโหนกแก้มจะบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของเราได้นั่นเอง โดยทั่วไปแล้ว โครงสร้างโหนกแก้มที่สูง ใหญ่มองเห็นชัด ดูดุดัน ไม่อ่อนหวาน จะบ่งบอกถึงความเป็นชายค่ะ ส่วนโหนกแก้มที่ต่ำลงมามีเนินนูนขึ้นมาพอสวยงาม ทำให้ใบหน้าดูหวานจะบ่งบอกถึงความเป็นหญิงค่ะ ใบหน้าที่มีโหนกแก้มสูง ใหญ่จนเห็นได้ชัด อาจจะทำให้รู้สึกว่าใบหน้าดูไม่อ่อนหวานเท่าไหร่ ขาดความมั่นใจ จึงไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับสาวๆค่ะ
การศัลยกรรมทุบโหนกแก้มคืออะไร?
เป็นการผ่าตัดแก้ไขโหนกแก้มให้มีความสมส่วนมากยิ่งขึ้นค่ะ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเพื่อลดสัดส่วนกระดูกโหนกแก้มที่หนาและสูงมากกว่าปกติ ซึ่งในแต่ละคนจะมีความหนา ความสูงของโหนกแก้มที่ต่างกันค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ส่งผลให้มีปัญหารูปหน้าไม่เหมือนกัน ซึ่งในผู้หญิงและผู้ชายจะมีลักษณะโครงสร้างกระดูกต่างกัน เพื่อบ่งบอกเพศสภาพอย่างชัดเจนค่ะ ดังนั้นจึงต้องทำการผ่าตัดภายใต้ความดูแลของแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดี เหมาะสมในแต่ละคนค่ะ
โดยแพทย์จะพิจารณาจากองค์ประกอบ 3 ส่วนหลักๆค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นมาฟังพร้อมกันเลยค่ะ
- ขนาดโหนกแก้ม
- ขนาดกราม
- ขนาดคาง
หลังจากนั้นจะเริ่มประเมินหาสาเหตุว่าเกิดมาจาก ไขมันสะสม หรือ โครงสร้างกระดูกค่ะ หากเกิดจากโครงสร้างกระดูกสามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมทุบโหนกด้วยเทคนิคเกาหลีค่ะ เพื่อใบหน้าที่ดูสวยงามอ่อนหวาน แลดูอ่อนเยาว์ เป็นธรรมชาติค่ะ
โหนกแก้มแบบไหนที่ควรทุบโหนก…
สำหรับสาวๆคนไหนที่มีข้อสงสัยว่า แล้วโครงสร้างโหนกแก้มแบบไหน ที่ควรทุบโหนก? วันนี้จะพาไปไขข้อสงสัยกันค่ะ
- ลักษณะโครงสร้างโหนกแก้มสูงและยื่นไปด้านหน้า
- ลักษณะโครงสร้างโหนกแก้มสูงและยื่นไปด้านข้าง
- ลักษณะโครงสร้างโหนกแก้มยื่นออกมาด้านข้างของแก้ม
- ลักษณะโครงสร้างโหนกแก้มสูง ใหญ่ มีพื้นที่กว้างทั้งดานหน้าและด้านข้าง
- ลักษณะโครงสร้างโหนกแก้มยื่นสูง แหลม แต่ฐานไม่กว้าง
เทคนิคที่ใช้ในการทุบโหนกมีกี่แบบ?
การทุบโหนกด้วยเทคนิคต่างๆมีข้อดี ข้อควรระวังแตกต่างกันออกไปนะคะ ดังนั้นแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละคนค่ะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และตอบโจทย์ในแต่ละบุคคล เทคนิคที่ว่านั้นมีแบบไหนบ้างนะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังพร้อมๆกันเลยค่ะ
กรอกระดูกโหนกแก้มหรือเหลาโหนกแก้ม
เป็นการปรับแต่งโครงสร้างกระดูกโหนกแก้มด้วยการเหลาเพียงเล็กน้อยค่ะ จึงเหมาะกับใครที่มีลักษณะโหนกแก้มไม่สูงมาก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลผ่าตัดภายในช่องปากด้านบนค่ะ แล้วหลังจากนั้นจะใช้เครื่องมือพิเศษที่สะอาดและทันสมัยได้รับมาตรฐาน เหลา หรือ กรอ บริเวณส่วนที่นูนออกมาค่ะ แล้วจึงทำการเย็บปิดแผลอย่างปราณีต
ซึ่งข้อดีของการรเปิดแผลภายในช่องปากนั้น จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นให้เราเห็นนะคะ เมื่อมีข้อดีแล้วก็ย่อมมีข้อควรระวังเช่นกันค่ะ ซึ่งข้อควรระวังที่ว่านี้ก็คือ เนื่องจากเทคนิคนี้เป็นการกรอกระดูกโหนกแก้มให้บางลง จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากลดขนาดโหนกแก้มด้านข้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ
ผ่าตัดทุบโหนกแก้ม
เป็นเทคนิคการตัดกระดูกโหนกแก้มด้านข้างค่ะ จึงเหมาะกับสาวๆที่มีโหนกแก้มหนา และสูงมาก แพทย์จะเปิดแผลบริเวณจอนผม แล้วทำการตัดหรือเลื่อนกระดูกโหนกแก้มจากจุดยึดเดิม แล้วเชื่อมเข้าหากัน หลังจากนั้นจึงเย็บปิดแผลค่ะ
ข้อดีของเทคนิคนี้ จะช่วยปรับโครงสร้างโหนกแก้มได้อย่างชัดเจน ทำให้ใบหน้าสวยได้รูปมากยิ่งขึ้นค่ะ ข้อควรระวังก็มีนะคะ เนื่องจากเป็นการเปิดแผลบริเวณจอนผม วิธีนี้อาจจะทิ้งแผลผ่าตัดเล็กน้อยบริเวณจอนผมนะคะ ทั้งนี้แผลผ่าตัดจะเห็นชัดเจนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไขหลังเข้ารับการผ่าตัดด้วยนะคะ
ทุบโหนก ตัดกรามราคาแพงไหม?
การผ่าตัดศัลยกรรมทุกรูปแบบมีความเสี่ยงนะคะ ดังนั้นหากคนไข้ตัดสินใจทำศัลยกรรมทุบโหนกตัดกรามไม่ควรตัดสินใจจาก ราคา หรือ รูปภาพรีวิว เพียงอย่างเดียวนะคะ
ทั้งนี้ควรดูองค์ประกอบโดยรวม ไม่ว่าจะเป็น สถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน ชื่อเสียงของศัลยแพทย์ และ ปัจจัยอย่างอื่นๆร่วมด้วยนะคะ
ซึ่งในส่วนราคาถูกหรือราคาแพงของการทำหัตถการทุบโหนกตัดกรามนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่จะขึ้นยู่กับลักษณะโครงสร้างใบหน้า รวมไปถึงปัญหาของคนไข้ในแต่ละเคสด้วยค่ะ จึงทำให้คนไข้แต่ละเคสมีค่าใช้จ่ายและเทคนิคการรักษาที่แตกต่างกันออกไปตามดุลยพินิจของแพทย์ค่ะ
ทุบ โหนกแก้ม ใช้ระยะเวลากี่วันหาย?
- ในช่วง1 เดือนแรก
หลังเข้ารับการผ่าตัด 1 วันแรกคนไข้สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ และรับประทานอาหารอ่อนๆ เคี้ยวง่ายๆนะคะ แต่หลังจากรับประทานอาหารเสร็จคนไข้ต้องทำความสะอาดช่องปากโดยการบ้วนปากด้วยน้ำเกลือทุกครั้งนะคะ
หลังจากนั้นในช่วงประมาณ 3 วัน แผลจะเริ่มยุบบวมค่ะ แต่คนไข้ควรนอนหงาย ยกศรีษะให้สูงกว่าลำตัว อย่าลืมประคบเย็นด้วยนะคะ เพื่อลดอาการบวมช้ำบริเวณแผลผ่าตัดค่ะ
ช่วง 5-7 วัน แนะนำให้คนไข้นอนพักฟื้นก่อนนะคะ หลังจากนั้นจึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเลยค่ะ
ในช่วง 7-14 วัน อาจมีอาการหน้าบวมและชาบ้างนะคะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับนะคะ แนะนำว่าให้ทาน “ซุปฟักทอง” จะช่วยลดอาการบวมได้ค่ะ
- ช่วง 2 เดือน
ช่วงนี้อาจจะยังมีอาการบวม และ ชา บริเวณโหนกแก้มอยู่นะคะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่สภาวะปกติค่ะ
- ช่วง 3 เดือน
ใบหน้าจะเริ่มเข้าที่ เนื่องจากอาการยุบบวมจะดีขึ้น และเผยให้เห็นโครงหน้าและความเปลี่ยนแปลงชัดเจนด้วยค่ะ
รวมรีวิว ทุบโหนกแก้ม
ทำไมต้องผ่าตัด “ทุบโหนกแก้ม” ที่ Masterpiece hospital
แม้การผ่าตัดทุบโหนกแก้มจะมีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากกระดูกโหนกแก้มไม่ได้มีหน้าที่สำคัญ ทั้งนี้ก็ยังต้องทำการผ่าตัดภายใต้ความดูแลของแพทย์เฉพาะทางและมากประสบการณ์นะคะ เนื่องจากต้องใช้ความระมัดระวังในการผ่าตัดอย่างมาก เพราะระหว่างทางที่เลาะจะมีเส้นประสาทที่ควบคุมการขยับ เคลื่อนไหวของใบหน้าอยู่ค่ะ
โรงพยาบาล Masterpiece เป็นสถานพยาบาลทีมีชื่อเสียง ได้รับมาตรฐาน รวมไปถึงเครื่องมือที่สะอาด ทันสมัย ที่สำคัญทางโรงพยาบาลของเรานำทีมโดยศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ด้านการปรับโครงสร้างใบหน้าโดยเฉพาะ รวมไปถึงมีวิสัญญีแพทย์ คอยดูแลคนไข้ตลอดเวลาระหว่างการผ่าตัดด้วยค่ะ พร้อมการันตีความสวย ดูดี โดดเด่น อ่อนเยาว์ทุกเคส ด้วยผลงานรีวิวการทุบโหนกจากลูกค้ามากมายเลยค่ะ
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
การเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดนั้นสำคัญมากค่ะ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นขณะผ่าตัดได้ แถมยังช่วยให้การผ่าตัดนั้นดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกด้วย เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว…หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า เอ๊ะ..แล้วเรื่องการเตรียมตัวนั้นต้องทำอย่างไรบ้างนะ?? เดี๋ยวเราจะมาไขข้อสงสัยกันเลยค่ะ
ก่อนถึงวันผ่าตัด
คนไข้ควรงดบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ รวมไปถึง วิตามินต่างๆอาหารเสริมทุกชนิด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 14 วันนะคะ
เมื่อถึงวันผ่าตัด…
สิ่งที่คนไข้ต้องทำหลักๆเลย ก็คือ…พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมความพร้อมสภาพจิตใจและร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงไม่มีไข้หรือการอักเสบใดๆ รวมไปถึงงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการผ่าตัดนะคะ เพราะการผ่าตัดทุบโหนกแก้ม หรือตัดกรามนั้นจะต้องดมยาสลบค่ะ
ที่สำคัญ อย่าลืมสระผม งดแต่งหน้า ถอดเครื่องประดับต่างๆ ถอดคอนแทคเลนส์ ไม่ทาเล็บหรือไม่ต่อเล็บใดๆทั้งสิ้นนะคะ และเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่ง่ายถอดง่าย เพื่อลดการสัมผัสใบหน้าหลังผ่าตัดค่ะ
ตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมไปถึงแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่บวกับประวัติสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว การแพ้ยา แพ้อาหาร รวมไปถึงยาที่รับประทานเป็นประจำด้วยนะคะ
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดศัลยกรรมทุบโหนกแก้ม
คนไข้ต้องนอนพักฟื้นที่ห้องพักผู้ป่วย 1 คืน ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ หลังจากนั้นจึงสามารถกลับบ้านได้ค่ะ แต่ในการปฏิบัติตัวตอนอยู่บ้านนั้นคนไข้ต้องระมัดระวังนิดนึงนะคะ
ในช่วงแรกแนะนำให้คนไข้นอนหงาย ยกศรีษะสูงกว่าลำตัวประมาณ 2-3 วันนะคะ รวมไปถึงใช้แผ่นเจลเย็นสำเร็จรูปรองบนเผ้าสะอาดประคบเย็นบริเวณหน้าค่ะ เพื่อลดอาการบวม เขียวช้ำ ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัดนะคะ
คนไข้ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ ที่เคี้ยวง่ายๆนะคะ แล้วทำความสะอาดช่องปากด้วยการบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ หลังรับประทานอาหารเสร็จทุกครั้ง และอย่าลืมรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งด้วยนะคะ
คนไข้ควรนอนพักฟื้นและทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา5-7 วันค่ะ ที่สำคัญในช่วง 14 วันนี้ ควรงดออกกำลังกายหนักๆก่อนนะคะ
ในส่วนของอาการบวมจะยุบลงเต็มที่โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือนนะคะ ระหว่างนี้ อาจจะมีอาการบวมและชาได้ค่ะ แต่ไม่ต้องกัวลไปนะคะ เพราะอาการต่างๆเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นและเข้าสู่สภาวะปกติ ในช่วงนี้จะเผยให้เห็นโครงสร้างความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าที่ชัดเจนค่ะ