เคล็ดไม่ลับ จัดการปัญหาโหนกแก้ม

เคล็ดไม่ลับจัดการปัญหา

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันนั้น ค่านิยมบนใบหน้ามีผลต่อความมั่นใจของหนุ่มสาวหลายคน แต่เมื่อไหร่ที่เกิดความผิดปกติจากปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โหนกแก้มไม่เท่ากัน , โหนกแก้มนูน หรือใหญ่มากเกินไป ล้วนส่งผลทำให้โครงสร้างหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ซึ่งในบทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเจาะลึกถึงปัญหาที่เกี่ยวกับ “โหนกแก้ม” ว่าคืออะไร ควรแก้อย่างไร และเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามได้เลยค่ะ

โหนกแก้มคืออะไร

โหนกแก้มคืออะไร

“โหนกแก้ม” เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เรามีใบหน้าอ่อนหวานสวยงาม แลดูมีมิติ หากมีสัดส่วนที่ไม่สมดุลกันกับอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้า ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนสูญเสียความมั่นใจจากการมีโหนกแก้มที่ใหญ่เกินไป หรือสูงเกินไป เพราะส่งผลให้ใบหน้าดูดุดัน น่ากลัว ดูแข็งกร้าวค่ะ

แต่ปัจจุบันก็มีแนวทางการรักษาที่หลากหลาย เช่น การผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้มที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าได้ถาวร ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาด ปรับรูปทรงของโหนกแก้มให้เล็กลง หรือแก้ไขปัญหาจากพันธุกรรม ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ช่วยเสริมเหลี่ยมคม ความเรียวกระชับให้ใบหน้า อีกทั้งยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยอันควรได้อีกด้วยค่ะ 
ซึ่งผู้ที่เหมาะสมกับการผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้ม ส่วนใหญ่มักเป็นคนที่มีโหนกแก้มสูงใหญ่, คนที่มีหน้าแบนกว้างเกินไป หรือมีโครงหน้าไม่สมส่วน หากใบหน้ามีความผิดปกติตามลักษณะดังกล่าว ก็สามารถเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขขนาด และรูปทรงของโหนกแก้ม เพื่อช่วยให้ใบหน้าเรียวเล็กลง ดูมีเสน่ห์น่าค้นหาชวนมองยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

โหนกแก้มไม่เท่ากันเกิดจากสาเหตุ

โหนกแก้มไม่เท่ากันเกิดจากสาเหตุ?

สำหรับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มไม่เท่ากัน คงอยากรู้ที่มาของสาเหตุว่าเกิดจากอะไรใช่มั้ยค่ะ?  ซึ่งจริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่ทำให้โหนกแก้มไม่เท่ากัน ทั้งกรณีที่หลีกเลี่ยงได้ และไม่สามารถเลี่ยงได้ ดังนี้ค่ะ

  • กรรมพันธุ์

เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ถ้าหากพ่อแม่มีปัญหาโหนกแก้มที่ไม่เท่ากัน หรือใบหน้าบิดเบี้ยว ก็สามารถถ่ายถอดมาสู่รุ่นลูกได้ โหนกแก้มไม่เท่ากันจึงเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิดนั่นเองค่ะ

  • การสะสมของไขมันบริเวณแก้ม

การรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมไขมันที่บริเวณแก้มได้ เนื่องจากเราไม่สามารถลดไขมันที่แก้มได้ด้วยวิธีธรรรมชาติ  ไขมันที่สะสมที่แก้มแต่ละข้างไม่เท่ากัน ทำให้เกิดปัญหาแก้มไม่เท่ากันตามมานั้นเองค่ะ

  • การใช้ชีวิตประจำวัน

การใช้ชีวิตประจำวันส่งผลต่อโหนกแก้มได้เช่นกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการเคี้ยวอาหารข้างเดียวเป็นประจำ, การนอนตะแคงพียงฝั่งเดียวบ่อย ๆ , การกดทับใบหน้าข้างเดียวเป็นประจำ  จะสามารถส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณโหนกเเก้มมีขนาดไม่เท่ากันได้นั้นเองค่ะ

  • การทำฟัน

โหนกแก้มไม่เท่ากันจากการ ถอดฟัน, จัดฟัน, ผ่าฟันคุต ซึ่งกรณีดังกล่าวจะมักเกิดจากทันตแพทย์ไม่มีประสบการณ์ หรือความเชี่ยวชาญมากพอ จึงส่งผลกระทบต่อขากรรไกรไปยังบริเวณโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าเสียสมดุลได้ในระยายาว เพื่อป้องกันภาวะรุนแรงอื่น ๆ ที่จะตามมาขอแนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยทำการศัลยกรรมผ่าตัดปรับโหนกแก้ม ให้โครงสร้างใบหน้ากลับมากระชับสัดส่วนได้อีกครั้ง

  • การได้รับอุบัติเหตุ

การกระทบกระเทือนบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรงจากการได้ประสบอุบัติเหตุบริเวณใบหน้า หรือบางคนเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อก็อาจทำให้หน้าบวมเสียสมดุล และโครงหน้าผิดสัดส่วนได้ค่ะ ซึ่งเป็นกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน แต่ก็สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้มค่ะ

ปัญหาโหนกแก้มมีอะไรบ้าง

ปัญหาโหนกแก้มมีอะไรบ้าง

  • โหนกแก้มสูง

โหนกแก้มสูง คือลักษณะของของโหนกแก้มที่ยื่นออกมามากเกินไป ทำให้ใบหน้าของคนไข้ดูมีอายุ หรือแก่กว่าวัยอันควรได้ เมื่อมองหน้าตรงแล้ว หน้าจะดูดุดัน กรอบหน้าเป็นเหลี่ยม ไม่หวานละมุน ส่งผลต่อความมั่นใจของหนุ่มสาวได้อย่างแพร่หลาย

  • โหนกแก้มนูน

เป็นลักษณะโหนกแก้มที่นูนออกมา เนื่องจากกระดูกที่มีขนาดใหญ่ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถบ่งบอกเพศได้ด้วยค่ะ ทำให้ส่วนใหญ่เพศชายมักจะมีโหนกแก้มที่นูนสูงชัดเจนกว่าผู้หญิง ภาพรวมบนใบหน้าจึงดูแข็ง ไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ

  • โหนกแก้มใหญ่

เป็นลักษณะโหนกแก้มที่กว้างออกไปด้านข้าง หรือเป็นไขมันที่สะสมบริเวณแก้ม ทำให้ ใบหน้าดูบาน และแบนจนไม่มีมิติ ไม่มีกรอบหน้าที่ชัดเจน

แนวทางแก้ปัญหาโหนกแก้มทำอย่างไร

แนวทางการแก้ปัญหาโหนกแก้มทำอย่างไร

การแก้ปัญหาโหนกแก้ม สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าเป็น การฉีดฟิลเลอร์, ฉีดโบท็อกซ์, การร้อยไหม หรือการฉีดไขมัน ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่เห็นผลได้เร็ว แต่อยู่ได้เพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น เนื่องจากสารประเภทเติมเต็มจะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังมีอีก 2 วิธีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แถมมีประสิทธิภาพสูง สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน และอยู่ได้อย่างถาวร ดังนี้

  • กรอโหนกแก้ม หรือเหลาโหนกแก้ม

เหมาะกับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มไม่สูงมาก หรือโหนกแก้มทั้งสองข้างไม่เท่ากันเล็กน้อย โดยแพทย์จะเปิดแผลข้างในช่องปาก แล้วใช้อุปกรณ์เข้าไปกรอ หรือเหลาโหนกแก้ม โดยจะไม่มีการผ่าตัด หรือเคลื่อนย้ายกระดูกโหนกแก้ม แต่จะช่วยปรับโหนกแก้มให้มีขนาดลดลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น

  • การผ่าตัดยุบโหนกแก้ม หรือตัดกราม

เหมาะสำหรับคนที่โหนกแก้มสูง หรือใบหน้าที่บาน โดยแพทย์จะใช้เทคนิคเปิดแผล บริเวณด้านข้างตรงจอนผม เพื่อใช้อุปกรณ์เข้าไปตัดกระดูกบริเวณด้านข้างออก แล้วทำการเชื่อมกระดูกต่อเข้าหากันอีกครั้ง ก่อนจะเย็บปิดแผล ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะช่วยเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าบริเวณโหนกแก้ม และทำให้ใบหน้าได้สัดส่วน ออกมาสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ

ข้อดีของการผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้ม

ข้อดีของการผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้ม

การผ่าศัลยกรรมโหนกแก้ม นอกจากจะทำให้หน้าเรียวเล็กลง อ่อนหวานขึ้นแล้ว ยังช่วยทำให้มีใบหน้าที่ได้รูปทรง และได้สัดส่วน แถมยังช่วยส่งเสริมใบหน้าโดยรวมอย่าง จมูก ปาก และส่วนอื่น ๆ ให้ดูโดดเด่นขึ้น ที่สำคัญทำให้เห็นโครงหน้าชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจให้คนไข้ได้อีกหลายคนด้วยค่ะ ถึงอย่างไรก็ตามการผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้มนั้นยังมีข้อดีที่หลายคนยังไม่รู้อยู่ดังนี้

1.  ช่วยลดโหนกแแก้มได้อย่างชัดเจน และอยู่ได้ถาวร 

2. ช่วยทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้าได้อย่างชัดเจนหลังผ่าตัดทันที

3. ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีมิติ เพิ่มความสมดุลให้ใบหน้าได้สัดส่วนตามที่คนไข้ต้องการ

4. อาการบวมช้ำน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดอื่น ๆ 

5. สามารถปรับโหงวเฮ้งของใบหน้าได้ตามความต้องการของคนไข้

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมโหนกแก้ม

การเตรียมตัวก่อนทำการศัลยกรรมโหนกแก้ม

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมโหนกแก้มนั้นมีสิ่งสำคัญที่ควรรู้ เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงกับคนไข้ทั้งก่อน หรือระหว่างทำการรักษาได้ โดยวิธีการเตรียมตัวที่ถูกต้องก่อนเข้ารับการผ่าตัดมีดังนี้

  • แจ้งประวัติการใช้ยา และอาการแพ้ยาอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ตามมา
  • ควรเตรียมสภาพร่างกายให้สมบูรณ์ แข็งเเรงอยู่ตลอดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงไข้หวัด หรืออาการอักเสบต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณช่องปาก เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบโดยตรงบริเวณที่ทำการผ่าตัดค่ะ
  • งดวิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของน้ำมันทุกชนิดอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแก้ปัญหาโหนกแก้ม  เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่ และแอลกอฮอล์ จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้แผลหายช้ากว่าปกติค่ะ 
  • ควรงดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัดประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงตามแพทย์สั่ง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงสำลักอาหาร หรือน้ำระหว่างผ่าตัดค่ะ  
  • ถอดฟันปลอม (ชนิดถอดได้) เพื่อป้องกันการหลุดเข้าไปติดหลอดลมขณะทำการผ่าตัด
  • หากมีอาการไอ เจ็บคอ  มีน้ำมูก หรือมีไข้ ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าก่อนวันผ่าตัด เพื่อพิจารณาเลื่อนวันผ่านตัด ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังจากผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้ม
  • เตรียมลาหยุดงาน เพื่อพักฟื้นหลังการผ่าตัด อย่างน้อย 5 วัน หากแผลผ่าตัดหายแล้ว สามารถกับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

ถึงแม้ว่าขั้นตอนการเตรียตัวจะสำคัญ แต่หลังจากผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้มแล้ว การดูแลรักษาตัวเองหลังผ่าตัดก็เป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม  เพราะทุกการกระทำล้วนส่งผลต่อตัวของคนไข้ ยิ่งทำสม่ำเสมอต่อเนื่อง ผลลัพท์ที่ได้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นค่ะ อีกทั้งยังป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้  โดยวิธีการดูแลรักษาที่แพทย์เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดมีดังนี้ 

  • หลังจากการผ่าตัด 24 – 48 ชั่วโมง แนะนำให้คนไข้ประคบเย็นด้วยเจลเย็น บริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมช้ำได้ค่ะ 
  • หลังจากการผ่าตัด 2 – 3 วันแรก ควรนอนยกส่วนศีรษะสูงกว่าลำตัว หรือให้นอนหนุนหมอนสูง ไม่ควรนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง เพื่อลดอากการบวม และช่วยให้แผลยุบเร็วขึ้น
  • คนไข้ควรพักฟื้นร่างกายหลังผ่านการผ่าตัดอย่างน้อย  1 สัปดาห์ เพื่อเฝ้าระวังความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ กิจกรรมที่กระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัด ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้โครงสร้างใบหน้าผิดรูปได้ค่ะ 
  • หลังจากผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ สามารถประคบอุ่นได้ เพื่อลดอาการเขียวช้ำได้
  • หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมโหนกแก้ม ควรใส่ซัพพอร์ตใบหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยในการพยุงใบหน้า และช่วยไม่ให้กระดูกที่ผ่าตัดเคลื่อนที่ไปมา 
  • ดูแลแผลผ่าตัดให้แห้งอยู่เสมอ  ระวังอย่าให้เปียกน้ำเด็ดขาด จนกว่าแผลจะตัดไหม 
  • สามารถสระผมได้ตามปกติ หลังจากตัดไหมแล้ว 24 ชั่วโมง
  • สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่เว้นไม่ให้โดนบริเวณแผลผ่าตัด
Scroll to Top
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า