ลดกรามใหญ่ โหนกแก้มสูงถาวรด้วยศัลยกรรมยุบโหนก
โหนกแก้มเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ บางคนอาจสูญเสียความมั่นใจจากการมีกรามใหญ่ไ โหนกแก้มสูงเกินไป ซึ่งรวมไปถึงเทรนความงามในยุคนี้ที่นิยมใบหน้าเรียวเล็กหวานละมุน และสาเหตุหลักที่มีกรามขนาดใหญ่มาจากพันธุกรรมที่ส่งต่อมาจากรุ่นพ่อแม่ แต่ทั้งนี้ก็ปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถทำให้กรามขยายใหญ่ขึ้นได้เช่นกันค่ะ
การศัลยกรรมยุบโหนกจึงเป็นทางเลือกสำหรับใครหลาย ๆ คนที่ต้องการแก้ปัญหานี้อย่างถาวร เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของกระดูกโหนกแก้มที่ยื่นออกมาจนเกินพอดี โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อกรอ ตัด หรือเลื่อนกระดูกกรามใหญ่ให้เล็กลง ซึ่งจะช่วยลดขนาดของโหนกแก้มได้ถาวร
กรามคือส่วนไหนของใบหน้า?
กรามคือส่วนล่างของหน้า อยู่ใต้คาง ทำหน้าที่ในการเคี้ยวอาหาร กระดูกกรามเป็นกระดูกขนาดใหญ่ที่ประกอบกันเป็นขากรรไกรล่าง ซึ่งประกอบด้วยกระดูกขากรรไกรล่าง 2 ชิ้น เชื่อมกันด้วยข้อต่อกราม กระดูกกรามมีลักษณะโค้งมน บริเวณมุมของกระดูกกรามเรียกว่า มุมขากรรไกร ซึ่งจะเป็นส่วนที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุดของกราม ซึ่งกรามจะแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ
- ขากรรไกรล่าง : เป็นกระดูกขนาดใหญ่ที่ประกอบกันเป็นขากรรไกรล่าง ซึ่งประกอบด้วยกระดูกขากรรไกรล่าง 2 ชิ้น เชื่อมกันด้วยข้อต่อกราม
- กล้ามเนื้อกราม : เป็นกล้ามเนื้อที่ยึดเกาะกับกระดูกขากรรไกรล่าง ทำหน้าที่ในการเคี้ยวอาหาร
โดยทั่วไป กรามจะเป็นส่วนสำคัญของใบหน้าที่ช่วยเสริมสร้างกรอบหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีปัญหากรามใหญ่ หรือกรามเหลี่ยม ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน และขาดความมั่นใจได้ วิธีแก้ไขกรามใหญ่สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำศัลยกรรมผ่าตัดกราม การทำทรีตเมนต์ด้วยโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ เป็นต้น
ปัญหาโหนกแก้มสูง กรามใหญ่เกิดจากอะไร?
- พันธุกรรม เป็นสาเหตุหลักที่พบได้บ่อยที่สุด โดยคนที่มีโหนกแก้มสูง กรามใหญ่มักมีประวัติครอบครัวที่มีลักษณะเช่นนี้เช่นกัน
- การเจริญเติบโตของกระดูก บางคนอาจมีการเจริญเติบโตของกระดูกดีมาก ก็จะทำให้มีกรามใหญ่ได้เช่นกัน
- การเคี้ยวอาหาร การเคี้ยวอาหารที่มีความเหนียว และแข็งบ่อย ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อกรามต้องออกแรงเยอะ เมื่อนานวันเข้าก็ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้เริ่มแน่นขึ้น จนเกิดปัญหากรามใหญ่ตามมา
- โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ อาจทำให้กระดูกบริเวณโหนกแก้ม และขากรรไกรมีขนาดใหญ่ขึ้นได้
- การบาดเจ็บ หรือกรประสบอุบัติเหตุที่บริเวณใบหน้า อาจทำให้กระดูกบริเวณโหนกแก้ม และขากรรไกรได้รับความเสียหายเกิดการอักเสบเรื้อรัง จนทำให้กระดูกบริเวณนั้นโตขึ้นได้
ใครเหมาะสำหรับการผ่าตัดปรับโครงหน้า
การผ่าตัดปรับโครงหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับใบหน้า เช่น โครงหน้าเบี้ยว โครงหน้าไม่สมส่วน โหนกแก้มสูง หรือต่ำจนเกินไป คางสั้น กรามเหลี่ม เป็นต้น โดยการผ่าตัดนี้สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามสมส่วน และเป็นไปตามต้องการได้ นอกจากนี้ การผ่าตัดปรับโครงหน้ายังเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับใบหน้า เช่น มีปัญหาในการบดเคี้ยว ปัญหาในการหายใจ เป็นต้น โดยการผ่าตัดนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้อีกด้วย
โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดปรับโครงหน้าสามารถทำได้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด ผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดปรับโครงหน้า ควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสม และวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ลักษณะกรามใหญ่มีกี่แบบ?
ลักษณะกรามใหญ่สามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้
- กรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณกรามขยายใหญ่ขึ้นจากการเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ อาหารเคี้ยวยากบ่อย ๆ หรือเกิดจากพฤติกรรมการนอนกัดฟัน ลักษณะกรามที่ใหญ่จากกล้ามเนื้อจะสังเกตได้จากการกัดฟันแล้วคลำบริเวณกราม หากมีกล้ามเนื้อเด้งสู้มือ นูนขึ้นชัดเจน
- กรามที่ใหญ่จากกระดูก เกิดจากโครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ ลักษณะกรามใหญ่จากกระดูกจะสังเกตได้จากการกัดฟันแล้วคลำบริเวณกราม หากมีสันกระดูกชัดเจน กระดูกขยับออก
- กรามที่ใหญ่จากไขมัน เกิดจากไขมันสะสมบริเวณกราม ลักษณะกรามใหญ่จากไขมันจะสังเกตได้จากการบีบบริเวณกราม หากมีไขมันนูนออกมา
นอกจากนี้ ยังมีลักษณะกรามขยายใหญ่แบบอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น กรามใหญ่ข้างเดียว หรือกรามใหญ่แก้มเยอะ
กรามใหญ่สามารถแก้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง?
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ อาหารเคี้ยวยาก เช่น ผลไม้แข็งๆ ถั่ว เมล็ดพืช ขนมปังกรอบ เป็นต้น พยายามเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน หลีกเลี่ยงการกัดฟันบ่อย ๆ
- ฉีดโบท็อกซ์ เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เป็นการฉีดสารโบท็อกซ์เข้าไปยังกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้กรามเล็กลง ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน จะต้องฉีดซ้ำทุก ๆ 6 – 8 เดือน
- การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นการใช้ฟิลเลอร์ฉีดเข้าไปบริเวณคาง เพื่อเพิ่มความคมชัดให้กับคาง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ส่งผลให้กรามดูเล็กลงตามไปด้วย
- ร้อยไหมดึงแก้ม เป็นการใช้ไหมละลายขนาดเล็กร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวบริเวณแก้ม เพื่อดึงแก้มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ส่งผลให้กรามดูเล็กลงตามไปด้วย
- ผ่าตัดศัลยกรรม เป็นวิธีที่ทำให้กรามเล็กลงได้แบบถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกระดูก แพทย์จะทำการผ่าตัดตัดกระดูกกรามออก โดยสามารถเลือกตัดได้ทั้งจากภายในช่องปากหรือภายนอกช่องปาก ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของกระดูกกราม
การศัลยกรรมแก้กรามใหญ่อันตรายไหม?
การศัลยกรรมแก้กรามนั้น ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ การผ่าตัดมักจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ศัลยแพทย์จะทำการกรีดแผลภายในปาก หรือภายนอกปาก เพื่อตัดกระดูกกรามออกบางส่วน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และลักษณะใบหน้าของคนไข้ โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของการผ่าตัดจะคงอยู่ถาวร แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามอายุ และน้ำหนักของแต่ละบุคคล
เนื่องจากการผ่าตัดกรามป็นการผ่าตัดที่ใหญ่ ซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการศัลยกรรมแก้กราม ได้แก่ การติดเชื้อ เลือดออก ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุดจากการศัลยกรรมแก้กรามคือเส้นประสาทเสียหาย ซึ่งอาจทำให้สูญเสียความรู้สึกบริเวณปาก ฟัน ริมฝีปาก และลิ้นได้ ภาวะแทรกซ้อนนี้มักเกิดขึ้นชั่วคราว แต่อาจเกิดขึ้นถาวรได้หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
ข้อดีของการผ่าตัดลดขนาดกราม
การตัดกราม หรือ การศัลยกรรมลดขนาดกราม เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลง โดยการตัดกระดูกกรามหรือลดขนาดกระดูกกราม เพื่อให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น การตัดกรามมีข้อดีหลายประการ ดังนี้
- ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง การตัดกรามจะช่วยปรับแต่งมุมกรามให้เล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง และได้รูปทรงที่สมส่วนมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจ การมีใบหน้าที่เรียวเล็กลงจะช่วยเสริมบุคลิกภาพ และเพิ่มความมั่นใจให้กับบุคคลนั้น
- มีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ถาวร การตัดกรามเป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ถาวร เมื่อกระดูกกรามถูกตัดแต่งแล้ว จะไม่กลับคืนสู่สภาพเดิม
การตัดกรามเหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ หรือเหลี่ยมกรามชัด ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน ดูดุดัน การตัดกรามสามารถช่วยปรับแต่งรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลง ได้รูปทรงที่สมส่วนมากขึ้น ส่งผลให้บุคคลนั้นดูมั่นใจ และสวยงามยิ่งขึ้น
ศัลยกรรมปรับโครงหน้ามีกี่เทคนิค
การตัดกรามเป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของกราม โดยศัลยแพทย์จะตัดกระดูกกรามบริเวณมุมกราม หรือขากรรไกรล่างออก เพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยขึ้น ในปัจจุบันมีเทคนิคการตัดกรามอยู่ 2 เทคนิคหลัก ๆ คือ
1.เทคนิคเปิดแผลนอกช่องปาก (External Jaw Reduction)
เป็นเทคนิคการตัดกรามแบบดั้งเดิม ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณมุมกรามทั้ง 2 ข้าง ยาวประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร เพื่อเข้าถึงกระดูกกราม จากนั้นจึงใช้เครื่องมือตัดกระดูกกรามออกตามขนาดที่ต้องการ เทคนิคนี้มีข้อดีคือ ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นกระดูกกรามได้ชัดเจน ทำให้สามารถตัดกระดูกได้อย่างแม่นยำ แต่มีข้อเสียคือ ทำให้เกิดแผลเป็นบริเวณมุมกราม ซึ่งอาจมองเห็นได้ชัดเจน
2.เทคนิคเปิดแผลในช่องปาก (Internal Jaw Reduction)
เป็นเทคนิคการตัดกรามแบบใหม่ ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณซอกเหงือกด้านหลังฟันกราม เข้าไปที่มุมกระดูกขากรรไกร จากนั้นจึงใช้เครื่องมือตัดกระดูกกรามออกตามขนาดที่ต้องการ เทคนิคนี้มีข้อดีคือ ไม่เห็นแผลเป็นบริเวณมุมกราม แต่มีข้อเสียคือ ศัลยแพทย์อาจมองเห็นกระดูกกรามได้ยากกว่าเทคนิคเปิดแผลนอกช่องปาก ทำให้อาจตัดกระดูกกรามไม่เท่า กันหรือผิดตำแหน่งได้
นอกจากเทคนิคการผ่าตัดแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ของการตัดกราม เช่น ประสบการณ์ของศัลยแพทย์ คุณภาพของเครื่องมือผ่าตัด และการดูแลหลังผ่าตัด ดังนั้น จึงควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย
ข้อควรระวังของการผ่าตัดกราม
การผ่าตัดกรามเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป คนไข้ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับข้อควรระวังและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด โดยทั่วไปแล้ว ข้อควรระวังของการผ่าตัดกราม ได้แก่
- ภาวะแทรกซ้อนจากยาสลบ การผ่าตัดกรามมักใช้ยาสลบทั่วไป ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นช้า หายใจลำบาก หรือชัก
- การติดเชื้อ การผ่าตัดกรามอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดซ้ำหรือเกิดแผลเป็น
- ความผิดปกติของการสบฟัน การผ่าตัดกรามอาจทำให้การสบฟันผิดปกติได้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการรักษาระยะหนึ่ง
- ความผิดปกติของเส้นประสาท การผ่าตัดกรามอาจทำให้เส้นประสาทที่อยู่ใกล้ ๆ กระดูกขากรรไกรเสียหายได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา หรืออ่อนแรงที่ใบหน้า
- ปัญหาการเคี้ยว การผ่าตัดกรามอาจทำให้การเคี้ยวอาหารลำบากได้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการรักษาระยะหนึ่ง
- ปัญหาการนอนหลับ การผ่าตัดกรามอาจทำให้นอนหลับลำบากได้ ซึ่งอาจเกิดจากอาการปวด หรือความผิดปกติของเส้นประสาท
- ปัญหาด้านจิตใจ การผ่าตัดกรามอาจทำให้เกิดปัญหาด้านจิตใจได้ เช่น วิตกกังวล ความกลัว และความซึมเศร้า